โหลดเกมส์

รองเท้าเทนนิส รู้จักกับผู้นำแฟชั่นรองเท้าเทนนิส เรื่องราวของแบนด์แฟชั่น

รองเท้าเทนนิส รู้จักกับผู้นำแฟชั่นรองเท้าเทนนิส และความโด่งดังของแฟชั่นกับกีฬา

รองเท้าเทนนิส รู้จักกับผู้นำแฟชั่นรองเท้าเทนนิส รองเท้าเทนนิส2022 เว็บของเราจะพา ไปทำความรู้จักกับ สแตน สมิธ ชื่อของนักเทนนิส ผู้โด่งดัง ที่มากับ รองเท้าเทนนิส อดิดาสสีขาว และชื่อรุ่นรองเท้าชื่อดัง ของแบนด์adidas

ที่แฟนอดดิดาส และหลายคนต้องรู้จักอย่าง แน่นอน นี่คือเรื่องราว การปล่อยหมัดน็อค ระดับดังเปรี้ยงของ adidasที่ทุกอย่าง ประจวบเหมาะตรงเวลา อย่างน่าเหลือเชื่อ และทำให้adidas Stan Smith

กลายเป็นรองเท้าขายดี ระดับปีละ 50 ล้านคู่ ทั้งๆ ที่รองเท้าทั้งคู่ แทบจะเป็น สีขาวทั้งหมด เบื้องหลังสำคัญ คืออดีตนักเทนนิสมือ1 ของโลกที่ทุกวันนี้ ผู้คนแทบ ไม่รู้จักแล้วว่า เขาคือใคร ทว่าเขาคือ ผู้สร้างจุดเปลี่ยน

ให้กับทางadidas Stan Smith ก้าวกระโดดจาก รองเท้ากีฬาสู่รองเท้า แฟชั่นอมตะ จนถึงทุกวันนี้ แฟชั่นคือสิ่งที่ หมุนวนไป ไม่รู้จบ สินค้าที่ไม่เคย ได้รับความสนใจ ใช่ว่าจะตายสนิท หากวันใดที่ ถึงเวลาของมัน

และมีเรื่องราวที่เหมาะ พวกมันอาจจะ กลายเป็นของเลอค่า ที่หาไม่ได้ ตามท้องตลาด ก็เป็นได้ สำหรับadidas แบรนด์สปอร์ตแวร์ จากเยอรมันที่ ภายหลัง ปรับตัวให้ เข้ากับกระแสสังคมโลก โหลดเกมส์

ด้วยการเอาจริง เอาจัง ในสายแฟชั่น ไม่มีรองเท้าแฟชั่น ของพวกเขา รุนไหนที่ อมตะและ เป็นยิ่งกว่าแฟชั่น ได้มากกว่าadidas StanSmith อีกแล้ว เพราะรองเท้ารุ่นนี้ แทบไม่เคยมี ความนิยมตกไปเลย

มันคือความคลาสสิก ที่อยู่เหนือ เหตุผลของกาลเวลาStan Smithคือผู้จุดประกาย รองเท้าแฟชั่นสายขาวล้วน ซึ่งผิดกับสไตล์ที่adidas พยายามจะชูให้เป็น ภาพจำมาตลอด นั่นคือการใช้ 3แถบตัดกับ สีพื้น

เพื่อสร้างความโดดเด่น ซึ่งในจุดนี้adidasStan Smithแหวกขนบ ด้วยการใช้ การเจาะรูขนาดเล็กๆ เรียงกันเป็น แนวตั้งแทนแถบ 1แถบ ด้วยยอดขายทั้งหมด 50 ล้านคู่ ที่เกิดขึ้นจาก การดิ้นออกจากกรอบ ที่พวกเขาเคยทำ

และมันเปรี้ยง เข้าไปอีก เมื่อเหล่าเซเลปฯ ระดับโลกไม่ว่าจะใน วงการแฟชั่น รองเท้าเทนนิสผู้หญิง และวงการนักร้อง ดารา รวมถึงนักกีฬา ต่างสวมใส่ คงต้องบอกว่ารองเท้ารุ่นนี้ สามารถเอาชนะต้นกำเนิด ของ adidas ได้ด้วยยอดขายอันดับ1

รองเท้าเทนนิส รู้จักกับผู้นำแฟชั่นรองเท้าเทนนิส กับการกำเนิดรองเท้าเจาะรูสำหรับกีฬาเทนนิส

จะบอกว่าadidas รุ่นStan Smithคือ รองเท้ากลายพันธุ์ มาก็คงไม่ผิดนัก เรื่องราวการถือกำเนิด ของรองเท้าที่ดีที่สุด ต้องย้อนกลับไป ในปี1963 ซึ่งadidas ผลักดันรองเท้า รุ่นนี้ลงในวงการเทนนิส

ทว่าชื่อเดิม รองเท้าเทนนิสชาย ของมันคือ Halliet ไม่ใช่ adidasStan Smithอย่างทุกวันนี้ ตามประวัติแล้ว รองเท้าทรงนี้ ถูกตั้งชื่อว่าadidas Robert Haillet โดยตั้งตามชื่อ ของ โรแบร์ ไอเยต์ นักเทนนิสชาวฝรั่งเศส

และออกขาย ครั้งแรกในปี 1965 หนังสือ Sneaker Wars อ้างอิงว่า ตอนนั้นประเทศฝรั่งเศส มีนักเทนนิสอาชีพ ระดับแถวหน้า แค่ 2 คนเท่านั้น ซึ่งทางadidas โดย ฮอร์สท์ ดาสเลอร์ ลูกชายของ อาดิ ดาสเลอร์

ผู้ก่อตั้งแบรนด์ เจ้าของไอเดีย การผลิตรองเท้า สำหรับ การเล่นเทนนิส หวังจะผูก เรื่องราวของรองเท้า กีฬาเข้ากับ เมืองแฟชั่นอย่างปารีส ซึ่งเป็นเมืองหลวงฝรั่งเศส ทำให้พวกเขาเลือก โรแบร์ ไอเยต์ ในท้ายที่สุด

ตำนานเจาะรู แทนแถบนั้น ไม่ได้มีจุดประสงค์ ด้านความสวยงาม เหมือนทุกวันนี้ เดิมทีทางadidas เชื่อว่าเป็น การออกแบบที่ ช่วยลดภาระ และ อาการบาดเจ็บที่ ข้อเท้าของ ผู้เล่น ขณะที่พื้นรองเท้า ก็เป็นพื้นยาง

ที่เหมาะกับ การเล่นเทนนิส แต่เมื่อมัน ประกอบด้วยลายเซ็นของ ไอเยต์ลงไป จึงทำให้จุดประสงค์ ของการใส่เล่น เทนนิสกลายพันธุ์เป็นการใส่ เพื่อความเท่ ไปแบบไม่รู้ตัว จากตัวของความเท่ และคูลของไอเยต์

อย่างไรก็ตามปัญหา ก็เกิดขึ้นจนได้ เพราะในปี 1971 ไอเยต์ได้ประกาศ แขวนแร็คเก็ต เลิกเล่นเทนนิสไป แต่adidas ต้องการสานต่อ ความนิยมของรองเท้ารุ่นนี้ และมองหา นักเทนนิสชื่อดังเข้ามาแทนที่

ซึ่งจากการเฟ้นหา ทำให้พวกเขาได้ นักเทนนิสชาวอเมริกันชื่อ สแตนลี่ย์ สมิธ มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์แทน รองเท้าเทนนิสชาย นี้คือการเดินเกมที่ถูกต้อง และสร้างชื่อเสียงและ ยอดขายอันดับ1 ที่ทางอดิดาส เดินเกมได้ อย่างถูกต้อง

รองเท้าเทนนิส

รองเท้าเทนนิส รู้จักกับผู้นำแฟชั่นรองเท้าเทนนิส สร้างยอดขายเป็นอันดับ1

สแตน สมิธเข้ามาเปลี่ยนแปลง รองเท้ารุ่น adidas Robert Haillet ให้ถูกลืมและ กลายเป็น adidas Stan Smith แม้ว่าจะมาทีหลัง ไม่ใช่รุ่นบุกเบิกก็ตาม Adidasเริ่มทำลาย ซิกเนเจอร์ของตัวเองลงไป

หลังจากเปลี่ยน ชื่อรุ่นในปี 1978 รองเท้าเทนนิสwilson ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่ม รอยปั๊ม รูปหน้า รูปหนวด บนลิ้นรองเท้า พร้อมลายเซ็นของเขา ที่เป็นตัว S ตัวเดียวล้วนๆ ลงไป จึงกลายเป็น การผสมกันระหว่างความเรียบง่าย กับความทันสมัย

ซึ่งเป็นจุดสำคัญ ที่ทำให้มันได้รับ ความนิยมเป็นอย่างมาก จนชนิดที่ว่า นักเทนนิสคู่แข่ง ของสมิธ ก็ยังสวมใส่ รองเท้ารุ่นนี้เลยด้วยซ้ำ ในยุค ’80s adidas Stan Smith เริ่มไม่เป็นที่นิยม และมียอดขายลดลง

เนื่องจากเทคโนโลยี ที่พัฒนาไป ไม่หยุดยั้ง ทำให้ประสิทธิภาพ ในการใช้แข่งขัน ของadidas StanSmith สู้คู่แข่งไม่ได้ แต่ก็อีกนั่นแหละ adidasก็พลิกกลยุทธ์ ออกลุยสายแฟชั่นเต็มตัว นักเทนนิสรายได้สูง

ภายใต้การ ออกแบบของสมิธ ที่มีความเป็นแฟชั่นนิสต้าสูง เพื่อทวงบัลลังก์รองเท้า ขายดีคืนมา เมื่อเข้าสู่ยุค ’90s adidasStan Smithจึงสามารถกลับมา ครองตลอดได้ในฐานะ รองเท้าแฟชั่น อย่างเต็มตัว

โดยยอดขายรวมกว่า 23.7 ล้านคู่ในปี 1994 ทำให้ ชื่อของอดิดาส สแตนสมิธ ขึ้นทำเนียบ Guinness World Records เลยทีเดียว ในฐานะยอดขายรองเท้า สูงสุดเป็นประวัติกาล นับเป็นความสำเร็จสูงมากของ ฝั่งอดิดาสก็ว่าได้

จากชื่อรุ่นกลายเป็นแบรนด์อันดับ1 ของรองเท้าอดิดาส ที่ได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน

สมิธเป็นนักเทนนิส ที่เก่งที่สุดในโลก ในยุคของเขา โดยเขาสามารถคว้าแชมป์ แกรนด์สแลม 2 รายการ คือ ยูเอส โอเพ่น ปี1971 และ วิมเบิลดัน ปี1972 ทว่าเท่านั้นยังไม่พอ สิ่งที่เขาเชื่อว่า เขาเกิดมาเป็นมนุษย์ ผู้โชคดี

คือเมื่อเขาเลิกเล่น เทนนิสไปแล้ว โลกก็ยังจดจำ รองเท้าเทนนิสasics และเชิดชูเขาเหมือนเดิม เพียงแค่เปลี่ยนสถานะ จากนักเทนนิสกลายเป็น เจ้าพ่อแฟชั่นนิสต้าเท่านั้นเอง ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่เรื่องฟลุ๊คอีกนั่นแหละ

เขายืนยันเสมอว่า ผมไม่ใช่นักเทนนิสหรอก ผมนี่แหละแฟชั่น ไอค่อนตัวจริง ซึ่งมันทำให้ การแขวนแร็คเก็ตของเขา นำมาสู่ผลงานดีๆ มากมายผ่านรองเท้า adidas Stan Smith ที่มีชื่อเสียงจนถึงปัจจุบัน

เรื่องจริงแต่แปลกที่ตัวของstan smithกลายเป็นถูกจดจำในชื่อของรุ่นรองเท้า มากกว่าชื่อของยอดนักเทนนิสของโลก

ปัจจุบันหากคุณเสิร์ช Google และค้นหาคำว่าStan Smithเชื่อหรือไม่ว่า รูปภาพที่ปรากฎ ในหน้าแรก ร้านขายรองเท้าเทนนิส ไม่มีใบหน้าของเจ้าของ ชื่อเลยแม้แต่ใบเดียว มีเพียงรองเท้ารุ่น อมตะอย่าง adidas Stan Smith ที่โชว์หรา

ความอมตะใน การออกแบบนี้เอง ที่ตอกย้ำว่าสแตน สมิธเป็นแฟชั่นไอค่อน ตัวจริงเสียงจริง มันคือความอัจฉริยะ ที่แม้แต่ความสามารถ ด้านเทนนิสในตัว ของเขาเอง ก็ยังต้องอิจฉา เพราะแทบไม่เคย ถูกนำมาพูดถึงเลย