นักบาสNBA โชคลาภกับนักบาสNBA กีฬาบาสที่นอกจากฝีมือแต่โชคก็เป็นเรื่องสำคัญ
นักบาสNBA โชคลาภกับนักบาสNBA หนึ่งในกีฬาระดับโลกอย่าง บาสเกตบอล และเรื่องราวเกี่ยว โชคลาภกับ กีฬาชนิดนี้ ที่แฟนNBA ต่างก็ทราบกันดีว่า เรื่องของโชคเป็นส่วนสำคัญ กับการแข่งขัน
รายการใหญ่อย่างNBA และนักบาสแม้แต่ นักบาสชั้นนำ ที่มีชื่อเสียงก็ยัง พึ่งโชคลาภและ บอกว่าสิ่งนี้ คือสิ่งที่ช่วยให้การเล่น และฟอร์มของเขาในสนามดี โชคเป็นส่วนหนึ่ง ที่สำคัญและแม้แต่ไมเคิล จอร์แดนก็ตาม
โดยเรื่องนี้ออกมาจาก ปากของไมเคิล จอร์แดนเองเลย ถึงเรื่องโชคลาภ โดยจุดเริ่มต้นนั้น นักบาส nba หล่อ เกิดขึ้นมา ตั้งแต่สมัย ที่จอร์แดน ยังเป็นเพียง ดาวรุ่งที่มีชื่อเสียง จากการพา มหาวิทยาลัย นอร์ทแคโรไลนา
กวาดแชมป์ ระดับประเทศ และกำลัง จะได้ออกสตาร์ท การเล่นอาชีพกับ ชิคาโก บูลส์ สำหรับคนอื่น อาจคิดว่าไมเคิล จอร์แดนไม่น่าจะมี ปัญหาอะไร กับการเล่นNBA บาสเก็ตบอลอาชีพ ในฤดูกาลแรกในชีวิต
เพราะด้วยศักยภาพ ที่เขามีอยู่ ในตัวนั้น ก็น่าจะดีพอ สร้างชื่อให้กับเขา ได้เหมือนกับ ตอนเรียน แต่ใน ทางตรงกันข้าม จอร์แดนในNBA ตอนเริ่มต้นกลับไม่ได้ รู้สึกมั่นใจแบบนั้นเลย จนนำมาซึ่งความเชื่อแปลกๆ ของเจ้าตัว
ที่เขาเลือกที่จะ ใส่กางเกงตัวสั้นๆ ที่เคยใส่ตอนเรียน เพื่อสร้างความมั่นใจ ผลที่ออกมาก็คือ กางเกงขาสั้น ทำให้จอร์แดน เกิดความมั่นใจอย่างมาก จนสามารถระเบิด ฟอร์มเทพ ตั้งแต่ฤดูกาลแรก ดูซีรี่ย์
และกลายเป็น สุดยอดนักบาสเกตบอล ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ในเวลาต่อมา แต่นอกเหนือกางเกงขาสั้นแล้ว จอร์แดนยังมี ความเชื่อแปลกๆ อีกอย่างหนึ่ง ที่ทำให้เสื้อ หมายเลข23 กลายเป็นเบอร์ยอดฮิต
ของนักบาสทั่วโลก ในยุคต่อมา โดยความเชื่อนี้เริ่มต้นในปี ค.ศ.1995 จอร์แดนกลับมาลงเล่น นักบาส nba สูง พร้อมกับเลือก ใส่หมายเลข45 ซึ่งเป็นเบอร์ที่พี่ชายเขา ใส่มาตลอด เนื่องจากเบอร์ 23 ที่เจ้าตัวเคยใส่ถูกยกขึ้นหิ้ง
ไม่ให้ใครใช้อีก ตอนเลิกเล่นหนแรก ไปแล้ว แต่ในเกมที่ บูลส์ต้องไปเยือน ออแลนโด แมจิค ในสถานการณ์ ที่ตกเป็นรอง ไมเคิลได้มี การขอเอาเสื้อหมายเลข 23 ที่แขวนอยู่ ในสนามนั้นมาใส่ และเขากลับโชว์ฟอร์มเทพ ได้อีกครั้ง
นักบาสNBA โชคลาภกับนักบาสNBA ความเชื่อแปลกๆ ที่มีคนใช้ในการแข่งขันบาส
โดยเรื่องความเชื่อกับ บาสเก็ตบอลนั้นไม่ได้ มีเพียงแค่จอร์แดน เท่านั้นที่เชื่อ แต่ใช้เรื่องของโชคและ เครื่องรางมี อยู่แทบจะ นักบาสNBAทุกคนเลยก็ว่าได้ ทุกคนต่างมีความเชื่อ แบบนี้เหมือนกันหมด
หากเป็นนักบาสNBA ส่วนใหญ่มักจะมี เรื่องเล่าแบบนี้ออกมา โดยแม้แต่สุดยอด นักบาสnbaที่เตี้ยที่สุด ตำนานเซนเตอร์อย่าง ชาคีล โอนีล ก็ยังมีความเชื่อแบบนี้ ความเชื่อที่ว่ามานี้ เกิดจากที่ผู้คนสังเกตพฤติกรรมของชาคีล
หรือฉายาบิ๊กแชค นั้นจะเคี้ยวหมากฝรั่ง 4ชิ้นก่อนแข่งขันทุกๆ นัด รวมถึงสวมถุงเท้า สองคู่ซ้อนกัน ทั้ง ตอนซ้อม และตอนแข่ง เลยเถิดไปถึงการขับรถ ในถนนเส้นเดิม ที่ชาคีล โอนีลพยายาม จะทำให้ได้ ในทุกๆ นัด
แม้หลายคน อาจจะบอกว่า ความเชื่อพวกนี้ ไม่ได้มีผล หรอกที่ทำให้ แชคเก่งขึ้น แต่มันกลับเป็นสิ่งที่ เจ้าตัวเชื่อสนิทใจเลยว่า มันทำให้เขาเล่นดีขึ้น แต่การเคี้ยวหมากฝรั่ง ของชาคีล อาจจะดูจิ๊บจ๊อยไปเลย ดรีมทีมบาสเกตบอล
เมื่อเทียบกับ คารอน บัตเลอร์ อดีตการ์ดยอดฝีมือ ดีกรีแชมป์กับ ดัลลัส แมฟเวอริกส์ และออลสตาร์ NBA 2สมัย แม้ว่าบัตเลอร์ จะได้รับการยอมรับว่า เป็นผู้เล่นที่มี ความสามารถโดยแท้จริง
แต่เจ้าตัวกลับบอกว่า ภายใต้ฟอร์ม อันยอดเยี่ยม ในการเล่นอาชีพ ของเขานั้น นัก บา ส NBAที่สูงที่สุด มีเคล็ดลับบางอย่าง ที่เจ้าตัวทำอยู่สม่ำเสมอ และมักแชร์เรื่องราวเหล่านี้ ให้เพื่อนร่วมทีมไปทำตาม เคล็ดลับที่ว่านั้นก็คือบัตเลอร์
จะดื่มเครื่องดื่ม เมาเทนดิว ขนาดขวดใหญ่ ในช่วงก่อนแข่ง และตอนพักครึ่ง หลังจากนั้นเขาก็จะเคี้ยวหลอด ประมาณ 12อัน ที่เขาเตรียมมาจากร้านแมคโดนัลด์ และเบอร์เกอร์ คิงส์ มายัดไว้ในปากแล้วเคี้ยวๆ รวมกัน
ที่สำคัญต้องเป็น หลอดของ 2แบรนด์ฟาสต์ฟูดนี้เท่านั้น ห้ามเป็นของเจ้าอื่น ไม่งั้นจะถือว่าผิดสูตร การเคี้ยวของ บัตเลอร์นั้นหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ จนถึงขนาดที่ เจ้าตัวเดิน เคี้ยวหลอดลงสนาม
ราวกับว่ามันเป็น หมากฝรั่งเลยทีเดียว ท้ายที่สุดความเชื่อ สุดแสนประหลาดของบัตเลอร์ ก็ถูกฝ่ายจัด สั่งห้ามให้ เจ้าตัวนำหลอด ลงมาเคี้ยวในสนามแข่งขัน ด้วยเหตุผลที่ว่า กลัวหลอดเหล่านั้น จะไปติดคอ
นักบาสNBA โชคลาภกับนักบาสNBA ความเชื่อที่มีแทบจะทุกคนและแต่ล่ะคนก็มีความเชื่อที่แตกต่างกัน
โดยในเรื่องของนักบาสNBAนั้น ความเชื่อเป็นสิ่งที่ มคู่กันเลยก็ว่าได้ ทุกคนต่างมีความเชื่อของตัวเอง และมีสูตรแปลก ไม่ค่อยเหมือนกัน เท่าไหร่ อย่างในรายของ เดอเรล อาร์มสตรอง อดีตการ์ดของ ออร์แลนโด แมจิค
ที่มีจุดเด่น ในเรื่องของ การกระโดดสูง และพละกำลังที่สามารถ วิ่งได้ทั่วสนาม แต่เคล็ดลับที่ทำให้ นักบาสที่เก่งที่สุดในโลก ตลอดกาล เรื่องเหล่านี้ได้ กลับไม่ใช่การฝึกที่หนักหน่วง จนร่างกายแกร่งขึ้น สิ่งนั้นกลับเป็น กาแฟแก้วใหญ่ๆ
ที่ไม่ใช่ ลาเต้ หรือ คาปูชิโน สุดหอมหวล แต่มันเป็นกาแฟ ที่เขาใส่น้ำตาล ลงไปอีก 7ซอง ที่สำคัญ อาร์มสตรองยังทำ การยกซดกาแฟสุดหวาน ลงไปในลำคอ แบบรวดเดียวหมดแก้ว เพื่อให้ครบสูตร
แม้จะดูเป็นเรื่องไร้สาระ และสุ่มเสี่ยง ที่ทำให้โรคเบาหวาน มาเยี่ยมเจ้าตัว ได้ในอนาคต แต่อาร์มสตรอง ก็มีเหตุผล ทางวิทยาศาสตร์ พอมาอธิบาย การกระดกกาแฟหวาน น้ำตาล7 ซองว่า จะช่วยสร้างพลังงานได้มากที่สุด
ซึ่งการทำแบบนี้ ในหลักวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่เรื่องดีเลยก็ว่าได้ และไม่แนะนำ ให้ทำตามเด็ดขาด เพราะมันเป็นการทำร้ายร่างกาย ไม่สามารถใช้ได้จริง ตามหลักมันอาจะจะได้ แต่ตามหลักการแพทย์ ต่างก็ไม่แนะนำ
ความเชื่อของนักบาสnba ก็มีความเชื่อน่ารักๆ เกี่ยวกับครอบครัวที่มีหลายคนต่างก็มีความเชื่อแบบนี้
มีความเชื่อมากมาย ที่ดูไม่น่าจะเกี่ยวข้อง และส่งผล ให้ผู้เล่นคนหนึ่ง เฉิดฉายใน NBAได้ บางคนก็ตีค่าไว้ แค่ความงมงาย แต่บางคนก็มองว่ามันเป็นเรื่อง ที่ทำแล้ว รู้สึกสบายใจ หนึ่งในความเชื่อที่คนติดตามบาสเกตบอล
อดอมยิ้มไม่ได้ ก็คือความเชื่อของ เจสัน คิดด์ ยอดการ์ดออลสตาร์ NBAที่ก่อนจะ ยิงลูกโทษทุกครั้ง นักบาสที่มีชื่อเสียง เขาจะส่งจูบไปให้กับ ลูกๆ ของเขาที่ชมเกมอยู่ทางบ้าน เช่นเดียวกับ เจฟ ฮอนาเซ็ค อดีตมือปืนของ ยูท่าห์ แจ๊ส
ที่ก่อนยิงลูกโทษเค้า จะเอามือลูบแก้ม สองสามคร้ัง แล้วค่อยยิงลูกโทษ แม้เจ้าตัวไม่สามารถอธิบายได้ว่า ทำไมเขาถึงต้อง ทำแบบนี้เสมอ แต่อย่างน้อยที่สุด มันเป็นวิธีการแสดง ความอบอุ่นที่ เจฟ อยากมอบให้ครอบครัว
ยามเจ้าตัวลงเล่นอยู่ในสนาม ความเชื่อของเจฟถูกส่งมายัง คาร์ล มาโลน เพื่อนร่วมทีมของเขา ที่แต่เดิม มีปัญหาใน การชู้ตจุดโทษ ก็ลองทำตามดู ปรากฏว่า มาโลน ยิงจุดโทษได้แม่นย้ำมากขึ้นผิดหูผิดตา
นักบาสNBAส่วนใหญ่มักจะ มีความเชื่อบางอย่างเมื่อต้องลงเล่นในสนามอย่างแท้จริง
โดยเรื่องของความเชื่อนั้น ไม่ใช่แค่ทำตามและ จะสามารถเก่งได้เทียบเท่า หรือทุกคนที่เป็นนักบาส จะต้องมีความเชื่อไป ซะหมดทุกคน เพราะทุกคนต่างมี ความเชื่อเป็นของตัวเอง เรื่องแบบนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล
แต่ว่าสุดท้ายหากทำแล้ว สบายใจแล้วมีความเชื่อมั่น ในตัวเองมากขึ้น และสิ่งที่ทำไม่เป็นอันตราย หรือเดือดร้อนใคร ความเชื่อก็ไม่ใช่สิ่งที่ผิด แต่ความเชื่อกับเป็น อีกหนึ่งมุมมองของ วงการNBA เลยก็ไม่ผิดนัก