นิโคลาย วาลูเยฟ ตำนานนักมวยยักษ์รัสเซีย นักมวยร่างยักษ์จากรัสเซีย

นิโคลาย วาลูเยฟ ตำนานนักมวยยักษ์รัสเซีย เจ้าของฉายา มนุษย์แปลงจากรัสเซีย

นิโคลาย วาลูเยฟ ตำนานนักมวยยักษ์รัสเซีย นี้คืออดีตนักมวย ที่มีภาพลักษณ์และ รูปลักษณ์เป็นที่จดจำ กับยอดนักมวย ที่มีชื่อเสียง และสามารถเป็นนักกีฬามวย ร่างยักษ์ที่มีชื่อเสียง เป็นอย่างมาก

นี้คือนักมวยรุ่น เฮฟวี่เวต ร่างยักษ์ที่ตลอดอาชีพ แพ้เพียง2ครั้ง แต่เกิดอะไรขึ้นทำไม เซรา ฟิ ม โท โด รอ ฟ เขาถึงหายเงียบไปและ ไม่มีชื่อเสียงเป็น ที่รู้จักเท่าที่ควร เว็บของเราในวันนี้ จะพาไปทำความรู้จัก กับยอดนักมวยคนนี้กัน

โดยเราจะไปดูถึง ต้นกำเนิดของเขา กันก่อนว่าครอบครัวเขา เป็นอย่างไร ต้องย้อนกลับไปปี 1973 ครอบครัววาลูเยฟ ได้ให้กำเนิดทารก ที่ชื่อว่านิโคลาย และเด็กคนนี้ มาพร้อมกับความมหัศจรรย์ มากมายที่เขา แสดงออกในภายหลัง

ความมหัศจรรย์แรก คือพ่อและแม่ ของเขามีความสูงไม่เกิน 5.5ฟุต หรือประมาณ167 เซนติเมตร แต่เมื่อโตในแต่ละปี ตัวของเขาก็ใหญ่ขึ้น แบบก้าวกระโดด เด็กธรรมดาสูงขึ้นโดยเฉลี่ยปีละ 4.5-5เซนติเมตร เว็บดูบอลสดฟรี

ตอนอายุ 10-13ปี ทว่าสำหรับเด็กชาย นิโคลาย ต้องจับคูณ2 เพราะเขาโตขึ้นปีละ 10กว่าเซนติเมตร แค่อายุ 10ขวบ เขาก็ตัวใหญ่ กว่าพ่อและแม่ ไปหลายเซนติเมตร และพออายุได้ 12ปี ส่วนสูงของเขาอยู่ที่ 192เซนติเมตร

ทุกคนแปลกใจเกี่ยว กับความสูงที่ แหวกจากพ่อและแม่ ไปไกลสิ้นเชิง จนกระทั่งตา ของเขามาเล่าเรื่องราว ในอดีตให้ฟัง และลองสันนิษฐานว่า นิโคลายอาจจะเกิด มาจากสายเลือดนักรบ ที่หายไป

ซึ่งก่อนหน้านี้เคยปรากฎ ในยุคตาทวดของเขา ที่เป็นนักรบ ของชาวตาตาร์ หรือพวกมองโกลอยพ หรือบรรพบุรุษของ ชาวคาซัคสถานอีกด้วย เมื่อโตขึ้นนิโคลาย เล่นกีฬาแทบทุกชนิดทั้ง โปโลน้ำ, บาสเกตบอล

และแน่นอนว่า ด้วยร่างกายใหญ่โต ขนาดนี้จะมีอะไรเหมาะ กับเขาไปมากกว่า การชกมวยกีฬาที่ Prince Naseem Hamed ประวัติ พึ่งพาตัวเองมากที่สุด ไม่มีเรื่องของทีมมาเกี่ยวข้อง และเมื่อเขา ได้ลองฝึก ก็ยิ่งตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

เมื่อจะต้องเลือก อะไรเพียงอย่างเดียว สำหรับการเอาจริงเอาจัง เขาตัดสินใจเลือก การชกมวยโดยไม่ลังเล และเริ่มฝึกพร้อมๆ กับต่อยระดับสมัครเล่นเรื่อยมา ด้วยความหนัก ของหมัดและขนาดตัวที่ใหญ่

ช่วงของตัวและแขนที่ยาว ทำให้นิโคลาย วาลูเยฟได้เปรียบ คู่ชกคนอื่นๆ ไปหลายช่วงตัว น่าเสียดายที่เขา ไม่สามารถเทิร์นโปร ในประเทศรัสเซียได้ เนื่องจากยังมี กฎหมายบางข้อ ที่ไม่รับรองอาชีพนักมวย

นิโคลาย วาลูเยฟ ตำนานนักมวยยักษ์รัสเซีย เริ่มต้นการเป็นนักมวยอาชีพ

เมื่อไม่สามารถเป็นนักมวย ได้ที่ประเทศรัสเซีย แต่ด้วย ชื่อเสียงและ ฝีมือของเขาทำให้ ค่ายมวยที่ชื่อว่า Sauerland Promotions ซึ่งอยู่ในประเทศเยอรมนี เขาจึงได้ย้ายมา อยู่ในค่ายนี้ และสามารถเทิร์นโปร

ได้ภายในเวลา เพียงแค่ปีเดียวเท่านั้น ซึ่งด้วยความใหญ่ยักษ์ ของร่างกาย กลายป็นความสนใจ โฮ ลี ฟิลด์ ของทุกที่ ที่เขาไป ยิ่งไปกว่านั้น สถิติการชก ส่วนใหญ่จบลง ด้วยการเอาชนะ น็อคคู่ต่อสู้ทั้งสิ้น

การไต่ไล่ ระดับของนิโคลาย นั้นโหดขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งเวลาผ่านไป ชั่วโมงบินของเขา ก็สูงขึ้นๆ จนกระทั่งในปี ค.ศ.1999 เขาสามารถน็อค อเล็กเซย์ โอโซคิน เพื่อนร่วมชาติ คว้าแชมป์ของรัสเซียใน รุ่นเฮฟวี่เวตได้สำเร็จ

การพิชิตทั้งหมด จะเริ่มขึ้น ตั้งแต่ตรงนี้ หลังจากเก่งที่สุด ในรัสเซีย บันไดขั้นต่อไป ของเด็กยักษ์จากเลนินการ์ด หรือเซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ในปัจจุบัน คือการออกไปสู้ ในระดับโลก ซึ่งเป็นเวทีที่เขาจะต้องรู้สึกเซอร์ไพรส์

กับหลายสิ่งแน่นอน ในโลกแห่งของจริง การออกโลก กว้างของนิโคลาย เริ่มจริงจังมากขึ้นเรื่อยๆ จากที่เคยได้ชก แต่กับนักมวยเยอรมันและรัสเซีย เขาเริ่มได้เจอ กับนักสู้จากต่างสัญชาติมากขึ้น มวยยุคเก่า 15ยก

ได้ไปในเวที ที่แตกต่างทั้ง ญี่ปุ่น, สาธารณรัฐเช็ก, เกาหลีใต้ และที่สำคัญคือ สหรัฐอเมริกา แชมป์โลก เฮ ฟ วี่ เวท คน ปัจจุบัน ดินแดนที่ว่ากันว่า ต้องดังจริง ถึงจะได้มา ขึ้นชกที่นี่ เรื่องความเก่ง ไม่มีใครสงสัย อะไรมากมายนัก แต่ปัญหาหลักๆ

คือภาพลักษณ์ของเขานั้น แปลกเกินกว่า ที่โลกแห่งหมัดมวยเคยเจอ สื่ออเมริกันชอบ เขามาก และด้วยความที่ เขาเป็นชาวรัสเซีย ชาติที่เป็นไม้เบื่อไม้เมา กับอเมริกา ดูเหมือนว่าเรื่อง ขนาดตัวของนิโคลาย

จะกลายเป็น ของเล่นสนุกปาก สำหรับสื่อกระทั่งทุกวันนี้ เขาเป็นเหมือนนักชก นักมวยที่ถูกสร้างมาเพื่อเป็นตัวโกง ด้วยการเล่นของสื่อ ที่เรียกเขาว่า มนุษย์ทดลองและมองเขาเพียงร่างกาย ที่ตัวใหญ่ไม่ได้ พูดถึงฝีมือการชกเลย

นิโคลาย วาลูเยฟ ตำนานนักมวยยักษ์รัสเซีย ตัวโกงของวงการมวยโลกแทนที่จะถูกจดจำในฐนะนักมวย

วันหนึ่งเขาก็ ได้รับบทบาท ของการเป็นตัวโกง เรื่องราวทั้งหมด เกิดขึ้นในปีค.ศ2004 ซึ่ง ณ เวลานั้น ตลอดอาชีพนักชกนิโคลาย วาลูเยฟแพ้ เพียงหนเดียวเท่านั้น นั่นคือการแพ้ให้กับ รุสลาน ชากาเยฟ จาก อุซเบกิสถาน

เมื่อปี2003 ภาพจำ ความโหด ความดุ และพลังหมัด ที่เหลือเฟือของเขา ยังถูกจดจำไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งนั่นเองที่ ทำให้เขาต้องรับบทตัวโกง ในการเป็น บันไดให้อีแวนเดอร์ โฮลีฟิลด์อดีตแชมป์โลกเฮฟวี่เวต

ขวัญใจชาวอเมริกัน ที่จะขึ้นชกเป็น ครั้งแรกหลังโดนแบน 21เดือน หากโฮลีฟิลด์ ชนะ เขาจะกระชาก เข็มขัดแชมป์โลกของ WBA ที่วาลูเยฟ ครองอยู่ กลายเป็นแชมป์โลก สมัยที่5 ของสถาบันWBA ทันที

ซึ่งในการชกครั้งนั้น อาจจะเป็นเพราะ การร้างสนามของโฮลีฟิลด์ หรือการตัดสิน ที่ผิดพลาด ตามความเห็น เฮ ฟ วี่ เวท กี่ กิโล ของแฟนมวยในไซต์ต่างๆ ไฟต์นั้นโฮลีฟิลด์ แพ้คะแนน 2เสียง เสมอ 1เสียง ภายหลังจาก

การประกาศคะแนน นิค ชาร์ลส์ ผู้บรรยายถึงกับหลุดปากออกมาว่า “นี่คือการตัดสิน ที่ห่วยแตกที่สุด เท่าที่ผมเคยเห็นมาเลย” ซึ่งเขาคิดว่า โฮลีฟิลด์ต่อยได้ดีกว่า และควรจะเป็นผู้ชนะ นั่นทำให้ นิโคลายดูเป็น ตัวโกงขึ้นมาอีก

และเมื่อเป็นตัวโกง ก็ต้องโดนฮีโร่กำจัด ในท้ายที่สุด เมื่อมาถึงจุดนี้แล้ว บทมันต้องจำเป็นจะต้องเป็นเช่นนั้น และผู้รับบทปราบยักษ์จากรัสเซียคนต่อไปคือ เดวิด เฮย์ อดีตแชมป์รุ่นครุยเซอร์เวต จากสหราชอาณาจักร

ศึกชกมวยระหว่างผู้รับบทตัวโกง กับนักชกที่ถูกกำหนดให้เป็นผู้ล้มยักษ์ที่ชื่อไฟต์ก็บ่งบอกทุกอย่าง

ทันทีที่ได้ วันเวลาชก พวกเขาก็ตั้งชื่อ ไฟต์ว่า David vs Goliath ซึ่งเป็นการตั้งชื่อ ศึกล้อกับนักรบยักษ์ ในคัมภีร์ไบเบิลที่ชื่อว่า โกไลอัท ที่ไล่ปราบนักรบ มาทั่วทุกสารทิศ ก่อนจะพลาดท่า ให้กับเด็กหนุ่มตัวเล็ก

ที่ชื่อว่า เดวิด พ้องกับชื่อของ เฮย์พอดี แค่ชื่อของศึก ก็รู้แล้วว่า ใครเป็นตัวโกง อย่างไรก็ตามพอก่อน นักมวยเฮฟวี่เวท ขึ้นชกกันจริงๆ คำพูดคำจาระหว่าง พระเอกและตัวโกง ดูจะสวนทางกัน ไปคนละทิศ นิโคลายที่รับ บทโกไลอัท

กลับไม่ได้มีคำพูด อะไรไปในเชิง หยามเหยียดข่มเหง อะไรนัก เขาตอบไปตาม ที่เขาคิด นั่นคือเรื่องการชก อย่างเดียวเท่านั้น ขณะที่ เดวิด เฮย์ นั้นแขวะ นิโคลายแทบทุกประโยค มันเหมือนกับการเหยียด เรื่องรูปร่างอยู่กลายๆ

หลังจ่กจบไฟต์ที่เขารับบทเป็นตัวโกง และต้องโดนปราบเขาก็ เลิกชกและหายจากวงการมวยไปเลย

น่าเสียดายที่นิโคลาย ไม่ได้ตอบแทนคำพูด แขวะอีกฝั่งด้วยกำปั้น เท่าไรนักแม้เขา จะตัวใหญ่ แต่ครั้งนี้ความตัวใหญ่ ทำให้เขาเสียเปรียบ เพราะเฮย์ไวมาก ใช้ฟุตเวิร์กและ การถอยฉาก ต่อยจิ้มทำคะแนนเร็ว

เกินเขาจะหยุดได้ ก่อนที่ เดวิด เฮย์ จะเอาชนะไปหลังครบ 12ยก อย่างเป็นเอกฉันท์ และที่น่าเสียใจ ยิ่งกว่านั้น คือหลังจาก ความพ่ายแพ้ นิโคลายไม่เคย กลับมาชกอีกเลย และเขาก็สิ้นสุดอาชีพนักมวย ของเขาในไฟต์ครั้งนั้นเลย