มวยยุคเก่า 15ยก สาเหตุยกเลิกมวย15ยก ศึกมวยที่มีการเสียชีวิตในการแข่งขัน
มวยยุคเก่า 15ยก สาเหตุยกเลิกมวย15ยก เรื่องราวของมวยยุคสมัยเก่า ที่ต้องแข่งขันกันถึง 15ยกและ เรื่องราวของศึกสุดท้าย ของมวย15ยก กับตำนานแมตช์ การชกบรรลือโลก ที่มีนักกีฬา เสียชีวิตบนเวทีมวย
กับเรื่องราวในตอนนั้น ของศึกการชกระหว่าง เรย์และคิม และการเสียชีวิตของ คิมดุกกู และเป็นจุดสิ้นสุด ของการชกมวย 15ยก โดยไกลออกไป จากกรุงโซล เมืองหลวงของประเทศเกาหลีใต้ 100 กิโลเมตร
มีหมู่บ้านชาวประมง ในจังหวัด กังวอน ครอบครัวหนึ่ง กำลังตกทุกข์ได้ยาก และเด็กน้อยที่ชื่อว่า คิม ดุก กู คือผู้เล่าเรื่องราว ความลำบากนี้ ด้วยทั้งหมด ชีวิตของเขา ตอนอายุ 2 ขวบ พ่อของเขาติดเชื้อไวรัส
และเสียชีวิตไป ส่วนเขาที่กำลัง แบเบาะก็ติดเชื้อนั้นด้วย ก่อนรอดมา อย่างปาฏิหาริย์ แต่เรื่องราวทั้งหมด เพิ่งเริ่มต้นขึ้น โดยแม่ของ คิมนั้น ต้องเลี้ยงลูก 5คนด้วย ตัวคนเดียว และนั่นทำให้ เธอต้องพยายาม อย่างมากในแต่ละวัน
เธอแต่งงานใหม่ ทั้งหมดถึง 3ครั้ง กว่าจะมา ถึงครั้งสุดท้าย เธอและลูกๆ ก็มีความทรงจำอัน เลวร้ายมากมาย เช่น การถูกพ่อเลี้ยงทุบตี โดนกดขี่สารพัด จนต้องขนข้าว ขนของ กระเตงลูกเต้าหนี ออกมาด้วย เว็บดูบอลสดฟรี
การเดินเท้าถึง 18กิโลเมตร กระทั่งมาพบรักกับ ชาวนาคนหนึ่ง และนั่นคือ รักสุดท้ายของเธอ แน่นอนว่าเธอ ไม่ได้แต่งงาน กับคนรวย ดังนั้นลูกๆ ของเธอจึงต้อง ทำงานอย่างนัก คิมเอง ก็ช่วยที่บ้าน ทำงานแทบทุกอย่าง
แม้จะเป็น น้องเล็กที่สุด ในครอบครัวก็ตาม ช่วงเวลาหลังจาก ทำงานเสร็จ คิม มักจะโดนพี่ๆ ลากไปมีเรื่อง ตามที่ต่างๆ สู้กับเด็กรุ่นเดียว กันทุกคน จนกระทั่งตระกูลคิม ของพวกเขากลาย เป็นขาโจ๋ประจำชนบท ไปโดยปริยาย
ทว่าคิม ดุกกู ถือเป็นนักสู้ ระดับบ๊วยของทีม เขาสู้กับใคร ไม่ค่อยได้ เพราะตัวเล็กเกินไป เมื่อเริ่มรู้ความ เข้าสู่ช่วงวัยรุ่น คิมก็เข้ากรุงโซล เพื่อไปหางานทำ เริ่มจากงานรับจ้าง หลายอย่าง ทั้งเด็กขัดรองเท้า
เป็นไกด์ทัวร์ และสุดท้ายในปี 1976 เขาก็เริ่มเข้าสู่ ค่ายมวยสากล สมัครเล่น การมีน้ำอดน้ำทน ของเขามี ประโยชน์มาก คิมดุกกูคือ มวยเอเชียพันธุ์แท้ และเขาก้าวกระโดด ขึ้นอย่างรวดเร็ว
เขาใช้เวลา 2 ปี ในระดับสมัครเล่น ก็เทิร์นโปร และต่อเนื่อง จากนั้น 4ปี เขาก็คว้าแชมป์ สหพันธ์ มวยภาคตะวันออกไกล และแปซิฟิก หรือแชมป์OPBF รุ่นไลท์เวต 135 ปอนด์ มาครองเป็นตำแหน่งแรก
มวยยุคเก่า 15ยก สาเหตุยกเลิกมวย15ยก เรื่องราวของคู่ชกของเขากับเรย์ มันชีนี่
โดยมาทางฝากฝั่ง ของคู่ชกที่ ต้องมีตราบาป อีกหนึ่งคน จากการสังหาร คู่ชกของตัวเอง นั้นคือ เรย์ มันชินี่ เขาคือสายเลือด นักมวยโดยแท้จริง พ่อของเขา เลนนี่ เคยเป็นนักมวยระดับแถวหน้า ในช่วงยุคปี 1940
แต่ไปไม่ถึง จุดสูงสุดเพราะ ต้องเข้าร่วมกองทัพสหรัฐฯ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่2 ก่อนได้รับบาดเจ็บ จนไม่สามารถ กลับมาชกมวยได้ เมื่อ เลนนี่ มีลูกชายคือ เรย์ความฝัน ทั้งหมดจึงถูกส่งต่อ ให้กับลูกชายของเขา
ผู้รับฉายาของพ่อ พร้อมภารกิจ คว้าแชมป์โลกที่ค้างคาภายใต้ชื่อ เรย์ บูม บูม มันชินี่ เขาเป็นมวยไฟเตอร์ ที่ไม่เคยถอยหลัง ให้ใคร เขาได้รางวัลนักชก ที่ต่อยได้ น่าตื่นตาตื่นใจ ที่สุดจนกลายเป็นขวัญใจคอมวย ในยุค 80s
แม้แต่ตำนานของ ยุคนั้นอย่าง ชูการ์ เรย์ เลียวนาร์ด ยังเคยออกปากว่า “ผมไม่มีทางต่อยแบบเขาได้เลย” เบื้องหลังมา จากคำพูดของ พ่อที่สอนตลอดว่า แม้จะไม่สามารถ เอาชนะนักมวยทุกคนบนโลกนี้ได้ เพอร์เนลล์ วิเทกเกอร์
แต่อย่างน้อย เวลาขึ้นชก จงบี้เข้าไป อย่าได้ถอย และนั่นคือ สไตล์ที่ทำให้เรย์ มันชินี่มวยสายเลือด อิตาเลี่ยน-อเมริกัน ใช้เวลาแค่ 3ปี ไต่จากการเทิร์นโปร ไปสู่การเป็น นักชกแชมป์โลกรุ่นไลท์เวต 135 ปอนด์ของ WBC
ในช่วงต้นยุค80s ทั้งเรย์ และคิม ต่างก็เป็นสุดยอด มวยรุ่นเล็ก ของฝั่งตะวันตก และฝั่งตะวันออก ดังนั้นเป็นธรรมดา ของวงการมวยโลก เมื่อมีนักมวยที่ฝีมือใกล้ๆ กัน จนเกิดข้อถกเถียงว่า ใครเก่งกว่าใคร
พวกเขาก็จะ สนองความต้องการ ด้วยการจับชนเพื่อหาคำตอบนั้น และสำคัญที่สุด คือ ไฟต์แบบนี้ ทำเงินน่าดูเลยทีเดียว และนี้ถือเป็น แมตช์ยุดโลก ที่ได้รับความสนใจมาก เพราะเป็นมวยยุโรป เจอกับยอดมวย ของเอเชีย
มวยยุคเก่า 15ยก สาเหตุยกเลิกมวย15ยก แมตช์หยุดโลกระหว่าง เรย์และคิมในตอนนั้น
ไฟต์ระหว่างคิม และ เรย์ถูกจัด ขึ้นที่ ซีซาร์ พาเลซ นครลาสเวกัส ในปี 1982 ณ เวลานั้นเข็มขัดแชมป์ของ เรย์ผ่าน การป้องกัน แชมป์มาทั้งหมด 4ครั้ง จนกระทั่งมาถึง คิวของผู้ท้าชิงอย่างคิม ที่เพิ่งเคยออกมาต่อย
นอกประเทศ เป็นครั้งที่2 สำหรับเรย์ และชาวอเมริกัน อาจจะไม่ใช่ เรื่องใหญ่โต ระดับไฟต์หยุดโลก แต่สำหรับ ชาวเกาหลีใต้และ ตัวของ คิม นั้นยิ่งใหญ่อย่างที่สุด เป็นโอกาสที่แทบจะหาไม่ได้
เขารู้ดีว่า ความพยายาม ทั้งชีวิตจะ ตอบแทนเขาอย่าง สาสมหากเขาคว่ำ เรย์ได้ และเป็นแชมป์โลก สิ่งนี้สะท้อน ออกมาเป็น คำพูดก่อนขึ้นชกว่า “ไม่เขาก็ผม ต้องมีใครตายในไฟต์นี้” นี่คือสิ่งที่ คิมว่าไว้
และมันมี ความหมาย ค่อนข้างชัดเจน โลกของมืออาชีพ ไม่เอาให้ตาย ก็ไม่มีทางจะ ชนะได้ง่ายๆ เหนือสิ่งอื่นใดคือ คิมต้องการ ชัยชนะไฟต์นี้สุดๆ เพราะ ณ เวลานั้น ภรรยาของเขา กำลังตั้งครรภ์ลูกชายคนแรก
ชัยชนะที่ฝัน ถึงยิ่งใหญ่กว่า การเป็นแชมป์ แต่มันคือชีวิต ความเป็นอยู่ และปากท้อง ของลูกเมีย ในฐานะหัวหน้าครอบครัว และมันจะเปลี่ยนโลกของเขาไป ตลอดกาลกับการขึ้นเป็น แชมป์โลกอย่างแท้จริง และกลายเป็นนักชก ที่ดีที่สุดในรุ่น
การชกกันในวันนั้นที่กลายเป็นโศกนาฏกรรมในภายหลังและกลายเป็นการยกเลิกการชกกัน15ยก
โดยในวันนั้นการชกเริ่มต้น เป็นไปได้อย่างสูสี จนกระทั่ง ยกที่12 คิมจะโดนซัดร่วง จนเสียนับ แต่เขา ก็ยังลุกขึ้นมาได้ อีกจนผู้ชมกว่า 10,000 คนที่ ซีซาร์ พาเลซ อดปรบมือให้ไม่ได้ เมื่อเข้าสู่ยกที่13 คิมที่อาการ ร่อแร่สุดๆ
ยังคงแสดง สิ่งที่เหลือเชื่อ ออกมาไม่หยุด เขาใช้แรงเฮือก สุดท้ายปล่อย หมัดชุดใส่ เรย์ทั้งๆ ที่ควรจะร่วง ไปตั้งนานแล้ว และในยกที่14 คิมก็ร่วงลงไปเรย์ มันชินี่รับรู้ถึง ความเป็นนักสู้ และไฟต์ที่ตึงมือที่สุดของเขา
โดยนักชกจาก อีกฟากโลก คิมดุกกูทำให้ เขาซูฮกด้วยหัวใจ เรย์ติดตาม อาการของคิม หลังจากที่เขา ชูเข็มขัดแชมป์ ก่อนพบว่า คิมยังไม่ได้สติเลย แม้จะผ่านมา เป็นชั่วโมงแล้วก็ตาม คิมโดนหามลงเปล
และส่งตรงไปที่ โรงพยาบาล Desert Springs เขาเข้ารับการ CT Scan และพบว่ามี เลือดออกใต้สมอง ต้องเข้ารับ การผ่าตัดเพราะ เลือดของเขาไหล ออกมากจนรอไม่ได้ เขารับการผ่าตัด และ อาการไม่ดีขึ้นเลย
การจากไปของยอดนักชก จากประเทศเกาหลีใต้ที่ เลือกสู้ไม่ถอยและไม่ยอมแพ้
4 วันหลังการผ่าตัด คิมฮีโร่สำหรับ เรย์ยังคงไม่ตอบสนอง เขากลายเป็น เจ้าชายนิทราโดย สมบูรณ์แบบ แม่กับภรรยาของเขา เดินทางมาถึงสหรัฐอเมริกา เพื่อตัดสินใจครั้งใหญ่ และบีบหัวใจอย่างที่สุด
นั่นคือการเซ็น เอกสารเพื่อยินยอม ให้แพทย์ถอดเครื่องช่วยหายใจ ปล่อยให้ คิม ดุก กู จากโลกนี้ไปอย่างสงบ ถ้าเขายอมถอย สักหน่อย เขาคงได้กลับบ้าน ในฐานะผู้แพ้ และอยู่พร้อมหน้ากับลูกเมีย
แต่เมื่อความเป็น นักสู้มันไม่เคย สั่งให้เขาถอยหลัง ได้เลยสักครั้ง คิมจึงปิดฉาก ตำนานมวยเบอร์1 ของเกาหลีใต้ แบบสุดช็อค และการตายของเขา นำมาซึ่งเรื่องเศร้า อีกมากมาย และการยกเลิก การชก15ยก